ในยุคที่โลกธุรกิจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ธุรกิจภาคอีคอมเมิร์ซ (E-commerce) เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด การจัดการด้านโลจิสติกส์ได้กลายมาเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โลจิสติกส์ไม่ได้เป็นเพียงการขนส่งสินค้าเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการวางแผน การจัดเก็บ และการกระจายสินค้า เพื่อตอบสนองความต้องการสินค้ายุคปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรียกได้ว่าโลจิสติกส์มีความสำคัญต่อธุรกิจมากแบบไม่สามารถปฏิเสธได้เลยครับ การจัดการบริหารในด้านนี้ให้ดีจะช่วยลดต้นทุน เพิ่มความรวดเร็ว และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้องค์กรหรือแบรนด์ เพื่อเข้าแข่งขันในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลานี้ได้อย่างดีครับ
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการโลจิสติกส์ หลายธุรกิจได้นำ ระบบ TMS (Transportation Management System) เข้ามาใช้เป็นเครื่องมือหลัก ในการวางแผนการขนส่ง ติดตามสถานะการจัดส่ง และวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับปรุงการดำเนินงานในอนาคต ระบบ TMS จึงได้กลายเป็นตัวช่วยที่แข็งแกร่งในการขับเคลื่อนธุรกิจ ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับความสำคัญของโลจิสติกส์ที่มีต่อธุรกิจ ว่าจะยกระดับการบริหารจัดการในโลกของธุรกิจที่ซับซ้อนขึ้นทุกวันนี้ได้อย่างไรกันครับ
โลจิสติกส์คืออะไร
โลจิสติกส์ (Logistics) เป็นเรื่องของกระบวนการวางแผน การควบคุม และการดำเนินการ เกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายสินค้า วัสดุ หรือข้อมูล จากจุดเริ่มต้นไปยังจุดหมายปลายทาง โดยมีเป้าหมายเพื่อให้สินค้าถึงมือผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพสูงสุดที่สุด เปรียบเทียบง่าย ๆ โลจิสติกส์ก็เหมือนกับการจัดส่งพัสดุนั่งเองครับ ตั้งแต่การรับพัสดุเข้ามาจากจุดเริ่มต้น การจัดเรียง การเลือกเส้นทางการส่งยังปลายทาง และการส่งมอบให้ถึงมือผู้รับ นั่นคือโลจิสติกส์ทั้งหมด
ความสำคัญของการขนส่ง
การขนส่ง (Transportation) เปรียบเสมือนหัวใจหลักของระบบโลจิสติกส์ และซัพพลายเชน ที่หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจทั่วโลกก็ว่าได้ ทำหน้าที่เคลื่อนย้ายสินค้า บริการ และจากต้นทางไปยังปลายทางอย่างมีประสิทธิภาพ ทั่วทุกมุมโลกนั่นเองครับ
- การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
การขนส่วนมีส่วนช่วยตั้งแต่การขนส่งสินค้า และวัตถุดิบสำเร็จรูป ที่เป็นปัจจัยสำคัญตั้งแต่กระบวนการผลิต การกระจายไปยังตลาด ที่สำคัญอุตสาหกรรมการขนส่งยังช่วยสร้างงานให้กับผู้คนจำนวนมาก
- การเติบโตของธุรกิจ
ธุรกิจ หรือแบรนด์ที่มีระบบการขนส่งที่ดี รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ สามารถแข่งขันกับธุรกิจอื่นได้อย่างแข็งแกร่ง ที่สำคัญยังช่วยลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปได้หลายส่วน
- การเชื่อมโยงซัพพลายเชน
การเคลื่อนย้ายสินค้า และวัตถุดิบระหว่างผู้ผลิต ผู้จัดขาย และผู้บริโภค อย่างมีประสิทธิภาพ ก็สามารถช่วยทำให้การไหลของสินค้าราบรื่น ตรงเวลา และลดความล่าช้าในห่วงโซ่อุปทาน
- พัฒนาคุณภาพชีวิต
การขนส่งทำให้เราสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาหารสด ผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค หรือบริการทางการแพทย์ เพิ่มความสะดวกสะบายในการเดินทางเปิดโอกาสให้เราได้สัมผัสกับวัฒนธรรมที่หลากหลาย และยังเปิดโอกาสให้เข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ
- ลดความสูญเสียในระบบโลจิสติกส์
การใช้เทคโนโลยีติดตามสินค้าแบบเรียลไทม์ โดยการวางแผนเส้นทาง ทำให้ลดการสูญเสียจากสินค้าชำรุดหรือสูญหาย ลดระยะทางและเวลาในการขนส่ง
- สนับสนุนการพัฒนาสังคมและวัฒนธรรม
การขนส่งช่วยเชื่อมโยงพื้นที่ชนบทกับเมือง ทำให้เกิดการกระจายสินค้าและบริการในพื้นที่ต่าง ๆ ส่งเสริมการเข้าถึงทรัพยากร สร้างโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ห่างไกล
เพราะการขนส่งไม่ได้เป็นเพียงกลไกในการเคลื่อนย้ายสินค้า แต่ยังเป็นแกนกลางสำคัญหลัก ที่ช่วยพัฒนาธุรกิจ สังคม และเศรษฐกิจ หากมีการวางแผนและจัดการที่ดี การขนส่งจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบโลจิสติกส์ได้ในทุกภาพรวมนั่นเองครับ
ขนส่งมีอะไรบ้าง
การขนส่ง แบ่งออกได้เป็นหลายประเภทตามลักษณะการใช้งาน และรูปแบบการเคลื่อนย้าย ตามลักษณะของเส้นทางและยานพาหนะที่ใช้ ดังนี้
- การขนส่งทางบก
การขนส่งทางถนน : การขนส่งที่ใช้กันบ่อยที่สุด รถจักรยานยนต์ รถยนต์ หรือรถบรรทุก
การขนส่งทางรถไฟ : เหมาะสำหรับขนส่งสินค้าจำนวนมากในระยะทางไกล
- การขนส่งทางน้ำ
การขนส่งทางทะเล : เหมาะสำหรับขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ในระยะทางไกล เช่น น้ำมันดิบ ถ่านหิน และสินค้าเกษตร ใช้เรือสินค้า เรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ และเรือบรรทุกน้ำมัน
การขนส่งทางน้ำภายใน : เช่น การขนส่งสินค้าทางแม่น้ำ คลอง หรือทะเลสาบ มักใช้เรือขนาดเล็ก และเรือบรรทุกสินค้า
- การขนส่งทางอากาศ
การขนส่งทางเครื่องบิน : ใช้สำหรับขนส่งสินค้าที่มีมูลค่าสูง หรือสินค้าที่ต้องการความรวดเร็ว เช่น สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์สด และผู้โดยสาร หรือการขนส่งสัตว์เลี้ยง
- การขนส่งทางท่อ
การขนส่งทางท่อ : ใช้สำหรับขนส่งของเหลว เช่น น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม
- การขนส่งแบบผสมผสาน
เป็นการนำเอาการขนส่งหลายรูปแบบมาใช้ร่วมกัน เช่น การขนส่งสินค้าจากโรงงานไปยังท่าเรือโดยรถบรรทุก จากนั้นจึงใช้เรือขนส่งไปยังประเทศปลายทาง เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง
ดังนั้นการเลือกใช้รูปแบบการขนส่งที่เหมาะสม จะช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ก็ต้องถึงปัจจัยต่าง ๆ ในการเลือกใช้รูปแบบการขนส่งไม่ว่าจะเป็นระยะทาง น้ำหนักและปริมาตรของสินค้า ความรวดเร็ว ต้นทุน และความปลอดภัย เพื่อลดความเสี่ยงในการสูญเสียสินค้า
ระบบโลจิสติกส์ สำคัญกับธุรกิจอย่างไร
ระบบโลจิสติกส์เปรียบเหมือนตัวช่วยจัดการหลังบ้านของธุรกิจ ถ้าจัดการดี ธุรกิจก็ไปได้ไกลกว่าเดิมเยอะ เพราะมันช่วยให้ทุกอย่างในห่วงโซ่อุปทานไหลลื่น ตั้งแต่การรับวัตถุดิบ การจัดเก็บ ไปจนถึงการส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าแบบตรงเวลา
- เพิ่มประสิทธิภาพ และกำลังการผลิต ช่วยให้การขนส่งของวัตถุดิบ สินค้าระหว่างกระบวนการผลิต และสินค้าไปยังผู้บริโภค เป็นไปอย่างราบรื่น ลดความล่าช้า
- สร้างความพึงพอใจให้กับคู่ค้า สร้างความไว้วางใจ และความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์
- ช่วยลดต้นทุน ลดค่าใช้จ่ายด้านการขนส่ง การจัดเก็บ และการบริหารสินค้าคงคลัง ลดการสูญเสียจากสินค้าชำรุด สูญหาย
- สร้างความได้เปรียบในตลาด ธุรกิจที่มีโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่ง สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้รวดเร็วกว่า
พูดกันง่ายๆ คือ ถ้าอยากให้ธุรกิจเติบโต โลจิสติกส์ต้องดี เพราะมันคือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ต้นทุนต่ำ ลูกค้าปลื้ม และธุรกิจแข็งแรง
การจัดการระบบ โลจิสติกส์ ให้ดีมีประโยชน์อย่างไร
การบริหารจัดการระบบ Logistic ให้ดีแน่นอนว่ามันคือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างราบรื่น และประสบความสำเร็จในระยะยาวอย่างมั่นคง ลองคิดดูนะครับว่าถ้าสินค้าไปไม่ถึงมือลูกค้าตรงเวลา หรือมีค่าใช้จ่ายในการขนส่งที่สูงเกินไป ธุรกิจก็จะเสียทั้งโอกาสและความไว้วางใจจากลูกค้า ดังนั้นการมีระบบโลจิสติกส์ที่ดีจะช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ช่วยให้ธุรกิจมีความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดด้วยนั่นเองครับ
- เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
เพื่อให้ประสิทธิภาพงานออกมาดีที่สุด ระบบจะเข้ามาช่วยในการวางแผนเส้นทางอย่างชาญฉลาด โดยจะคำนวณหาเส้นทางที่สั้นที่สุด เพื่อช่วยในการจัดการสินค้า ที่สต๊อกในคลัง การรับเข้า และการส่งออกสินค้า ทำให้ลดความผิดพลาดในการจัดการ และเพิ่มความรวดเร็วในการดำเนินงานให้กับคนขับด้วยนั่นเอง
- การบริหารจัดการคลังสินค้าได้ดีขึ้น
ช่วยลดขั้นตอนที่ซับซ้อน และเพิ่มความรวดเร็วในการดำเนินงาน ประหยัดทั้งเวลา และเพิ่มความคล่องตัวให้งานดำเนินงานไปได้ด้วยดี
- ลดต้นทุนการขนส่ง
ช่วยลดขั้นตอนการทำงานที่ซ้ำซ้อน เพราะการวางแผนเส้นทางที่ดีจะช่วยลดระยะทางที่ไม่จำเป็นและลดเวลาในการขนส่ง ทำให้ประหยัดค่าน้ำมันที่ใช้ ทำให้ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายได้ในหลาย ๆ ส่วน
- สามารถบันทึกและจัดการข้อมูลการเงินได้
การจัดการข้อมูลการเงินที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการขนส่ง ช่วยให้การบริหารต้นทุน การติดตามค่าใช้จ่ายแม่นยำ และเป็นระบบมากขึ้น
- เพิ่มความแม่นยำ ลดความผิดพลาด
ลดการป้อนข้อมูลผิดพลาด เช่น การจัดการคำสั่งซื้อ การออกเอกสารขนส่ง และการคำนวณต้นทุน ช่วยจัดการตารางงานของพนักงานขับรถ รวมถึงการตรวจสอบเส้นทาง เพื่อป้องกันการทำงานผิดพลาดหรือไม่เป็นไปตามแผน
- วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจที่ดีขึ้น
การควบคุมการขนส่งจากคลังสินค้าไปยังปลายทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การจัดการสินค้าคงคลังเป็นไปอย่างแม่นยำ และเก็บข้อมูลไว้หาว่าต้นทุนใดสามารถลดลงได้
- เพิ่มความประทับใจให้กับลูกค้า
แน่นอนว่าการจัดส่งที่รวดเร็ว ตรงเวลา และแม่นยำ จะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจหรือแบรนด์ของคุณได้มากยิ่งขึ้นเช่นกันครับ
ระบบ TMS คืออะไร
ระบบการบริหารจัดการขนส่ง หรือ Transportation Management System (TMS) เป็นเครื่องมือที่สำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้าเหมาะสำหรับธุรกิจทุกประเภทที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง ลดต้นทุน และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า มีฟังก์ชันหลากหลายที่เหมาะสมกับบริษัทผู้ผลิตสินค้า ผู้ให้บริการขนส่งรถบรรทุก และผู้รับสินค้า ระบบนี้ช่วยให้สามารถออกใบออเดอร์เพื่อยืนยันการส่งสินค้า วางแผนการจัดส่ง ตรวจสอบรถที่พร้อมให้บริการ คำนวณเวลาในการรับสินค้าและส่งถึงผู้รับ รวมถึงการคำนวณเส้นทาง จำนวนสินค้า จำนวนรถที่ใช้ และปริมาณเชื้อเพลิง นอกจากนี้ยังสามารถจัดการพนักงานขับรถได้อย่างอัตโนมัติ ระบบนี้ไม่เพียงแต่จัดการการขนส่งสินค้า แต่ยังคำนวณค่าใช้จ่ายและบริหารบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งได้อย่างแม่นยำและถูกต้อง
ซึ่งนอกจากนี้เจ้าตัวระบบ TMS ก็ยังสามารถบันทึกข้อมูลสำคัญต่าง ๆ เพื่อใช้ในการบริหารงานโลจิสติกส์ได้ ยกตัวอย่างเช่น ข้อมูลรถบรรทุก วันหมดอายุทะเบียน ประกันภัย ใบอนุญาตขนส่ง และอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง และข้อมูลพนักงานขับรถ ชื่อ ที่อยู่ ข้อมูลติดต่อ ใบอนุญาตขับขี่ รวมถึงประวัติอุบัติเหตุ ของคนขับ
ระบบ TMS ช่วยธุรกิจได้อย่างไร
ระบบ TMS หรือระบบการบริหารจัดการขนส่ง เป็นระบบที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง เปรียบเสมือนสมองกล ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานทั้งบริษัทผู้ผลิตสินค้า ผู้ให้บริการขนส่งรถบรรทุก และผู้รับสินค้า เป็นการบริหารจัดการกระบวนการขนส่งทั้งหมดขององค์กร ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ช่วยให้บริษัทจัดการข้อมูลได้สะดวก รวดเร็ว และแม่นยำ
ระบบ TMS ช่วยรวมข้อมูลการขนส่งทั้งหมดไว้ในที่เดียว ทำให้การเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ เช่น สถานะการขนส่ง เส้นทาง เวลา และค่าใช้จ่าย เป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องค้นหาข้อมูลจากหลายแหล่ง ช่วยลดข้อผิดพลาดจากการบันทึกข้อมูลด้วยมือ ทำให้ข้อมูลที่ได้มีความแม่นยำ อีกทั้งยังประมวลผลข้อมูลได้ทันที
- บริษัทมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นเพราะสามารถตรวจสอบการจัดส่งได้ มีมาตรฐาน
ด้วยระบบ TMS ที่สามารถติดตามการขนส่งแบบเรียลไทม์ บริษัทสามารถให้ข้อมูลที่แม่นยำแก่ลูกค้าเกี่ยวกับสถานะการส่งสินค้า เช่น เวลาและสถานที่ที่สินค้าจะถึงลูกค้า ทำให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจในความน่าเชื่อถือของบริษัท ป้องกันข้อผิดพลาดจากการจัดส่งและสร้างความไว้วางใจในบริการ
- ตรวจสอบง่าย ลดการเกิดการทุจริตขึ้นในบริษัท
ระบบ TMS ช่วยในการตรวจสอบการขนส่ง และการดำเนินงานต่าง ๆ ได้ง่าย เช่น การตรวจสอบเส้นทาง เวลาการขนส่ง และข้อมูลพนักงานขับรถ ซึ่งทำให้การตรวจสอบบัญชีและการทำงานต่าง ๆ เป็นไปอย่างโปร่งใส ทุกอย่างสามารถตรวจสอบ และติดตามได้ ลดโอกาสในการเกิดการทุจริต
- สามารถนำข้อมูลเพื่อมาวิเคราะห์ต่อได้ง่าย เพื่อพัฒนาธุรกิจ
ข้อมูลที่เก็บรวบรวมจากระบบ TMS สามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อพัฒนาธุรกิจได้ทันที เช่น การวิเคราะห์เส้นทางที่คุ้มค่าที่สุด การวางแผนการขนส่งในอนาคต หรือการวิเคราะห์ต้นทุน และประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร ช่วยให้บริษัทสามารถปรับปรุงกระบวนการขนส่ง และลดต้นทุนในระยะยาว
- สะดวกรวดเร็วในการทำบัญชีและเอกสารในการขนส่ง
ระบบ TMS ช่วยให้การจัดการเอกสารการขนส่ง เช่น ใบส่งของ ใบเสร็จ หรือเอกสารทางการเงินต่าง ๆ เป็นไปอย่างรวดเร็ว ถูกต้อง เนื่องจากข้อมูลการขนส่งจะถูกบันทึก และจัดเก็บในระบบอัตโนมัติ ทำให้การทำบัญชีและการจัดการเอกสารไม่ยุ่งยาก ช่วยลดเวลาในการดำเนินงาน และเพิ่มความสะดวกในการทำงาน
สมมติว่าคุณเป็นเจ้าของบริษัทขนส่งสินค้า คุณสามารถใช้ระบบ TMS เพื่อวางแผนการส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าหลายรายในแต่ละวัน โดยระบบจะช่วยคำนวณเส้นทางที่สั้นที่สุดและประหยัดเวลาที่สุด ช่วยให้คุณสามารถจัดส่งสินค้าได้ตรงเวลาและลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
TMS ยังสามารถบันทึกข้อมูลของรถบรรทุกแต่ละคัน เช่น การต่อทะเบียน ประกันรถ ใบอนุญาตขนส่ง และอัตราสิ้นเปลือง รวมถึงข้อมูลของพนักงานขับรถ เช่น ชื่อ ที่อยู่ ข้อมูลการติดต่อ ใบอนุญาต และประวัติการเกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วย หากคุณกำลังมองหาทางออกในการจัดการกับการขนส่งอย่างชาญฉลาด ระบบ TMS ก็เป็นคำตอบที่คุณกำลังมองหาครับ
ระบบ TMS จาก 360TECHX
“360TECHX” เครื่องมือที่ใช้งานง่าย แต่ทรงพลัง ช่วยให้ธุรกิจขนส่งสามารถบริหารจัดการงานขนส่งอย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน เพิ่มความแม่นยำ บริหารจัดการข้อมูล งานขนส่งครบ จบในระบบเดียว วางแผนและจัดการบริการงานขนส่ง สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ รองรับกระบวนการทำงานระบบ ERP ชั้นนำระดับโลก โดยปรับแต่งระบบ (CUSTOMIZATION) ให้เหมาะสมกับธุรกิจขนาดใหญ่ ไม่พลาดฟีเจอร์สำคัญ และบริการใหม่ ๆ เชื่อมต่อการขนส่งธุรกิจกับโลกภายนอกอย่างไร้รอยต่อ ช่วยออกแบบระบบ และกระบวนการทำงานเป็นมาตรฐาน บริหารจัดการ ECOSYSTEM การขนส่งของคุณแบบออนไลน์ 100% รองรับการใช้งานร่วมกับ 360TRUCK
- จัดการงานขนส่งทั้งหมดไว้ในระบบเดียว
ระบบ TMS จาก 360TECHX ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการทุกกระบวนการขนส่งในที่เดียว ตั้งแต่การวางแผนการขนส่ง การติดตามสถานะ ไปจนถึงการจัดการเอกสารที่เกี่ยวข้อง ทำให้การดำเนินงานสะดวกและไม่ยุ่งยาก ลดความซับซ้อนในการบริหารงานขนส่ง เช็คสถานะงานเป็นอย่างไร รายจ่ายกี่บาท รายได้เท่าไหร่ รู้ได้ทันที ทำงานร่วมกันในที่เดียวทั้งเจ้าของงาน ลูกค้า รถ และคนขับ
- เหมาะกับธุรกิจ SME ขนส่ง รายเล็กและรายย่อย
ระบบ TMS จาก 360TECHX สามารถช่วยให้ธุรกิจเหล่านี้สามารถจัดการการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องลงทุนในระบบขนส่งที่ซับซ้อนหรือราคาแพง รวมถึงธุรกิจที่กำลังตั้งไข่ ที่มีเครือข่ายเจ้าของสินค้าเป็นจำนวนมาก เป็นตัวช่วยที่ให้คุณทำงานผ่านระบบที่ไหนก็ได้ ตำแหน่งไหน ก็สามารถทำงานร่วมกันได้ในระบบเดียว
- ระบบติดตามงาน และช่วยแจ้งเตือนอัตโนมัติ
อัพเดตสถานะงานเมื่อคนขับเข้าใกล้จุด รับ/ส่งสินค้า เมื่อรถมีแนวโน้มรับ-ส่งสินค้า ช้ากว่ากำหนด ติดตามสถานะการขนส่งได้แบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที
- ตรวจเช็กค่าขนส่ง ขาเก็บ/ขาจ่าย ได้ทั้งภาพรวมและรายเที่ยว
ระบบตะกร้าบิล บันทึกบิล และ กระจายค่าใช้จ่ายได้สะดวก คำนวณค่าเที่ยว/คนรถ ให้อัตโนมัติไม่ขาดตกบกพร่อง จัดการจ่ายเงินเดือน ค่าเที่ยวคนขับอย่างเป็นระบบ ระบบTMS ที่โปร่งใส ใส่ใจความเป็นส่วนตัวและมีความปลอดภัยสูง ง่ายต่อการบริหาร
เปลี่ยนวิธีบริหารงานขนส่งให้ทันสมัยขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น “360TECHX” เหมาะสำหรับการส่งสินค้าขนาดจำนวนมาก ผ่านรถบรรทุก โดยสามารถรองรับรถบรรทุกทุกประเภท ทั้ง 4 ล้อ, 6 ล้อ และรถเทรลเลอร์ โดย 360TECHX TMS รองรับการการบริหารรถบรรทุก ทุกประเภทรถอีกด้วย ดังนั้นหากใครที่กำลังมองหาระบบ TMS ที่ดีและน่าเชื่อถือ 360TECHX เป็นตัวเลือกที่มีคุณภาพ ทีมงานยินดีให้บริการด้วยใจ สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ตลอดเวลาครับ
ตอกย้ำอีกครั้งว่าระบบ TMS จาก 360TECHX เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจขนส่ง SME จัดการงานขนส่งได้ง่ายขึ้น มีความสะดวก รวดเร็ว และสามารถตรวจสอบข้อมูลได้อย่างแม่นยำ ทำให้ธุรกิจสามารถปรับปรุงกระบวนการขนส่ง และลดต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ